เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

เขาตอบว่า “ได้เห็นแล้ว ขอรับ”
“กิตติศัพท์ของท่านพระโคดมที่ขจรไปเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลยหรือ
ท่านพระโคดมทรงเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลยหรือ”
“ขอรับ กิตติศัพท์ของท่านพระโคดมที่ขจรไปเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่น
เลย ท่านพระโคดมทรงเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลย ทั้งยังทรงประกอบด้วย
ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการครบถ้วน ไม่ใช่ไม่ครบถ้วน”
“เธอได้สนทนากับพระสมณโคดมบ้างหรือไม่”
“ได้สนทนา ขอรับ”
พราหมณ์โปกขรสาติถามว่า “เธอได้สนทนากับพระสมณโคดมว่าอย่างไรบ้าง”
อัมพัฏฐมาณพจึงได้เล่าเรื่องเท่าที่ตนสนทนากับพระผู้มีพระภาคให้พราหมณ์
โปกขรสาติทราบทุกประการ
[291] เมื่ออัมพัฏฐมาณพเล่าให้ฟังอย่างนี้ พราหมณ์โปกขรสาติกล่าวว่า
“โธ่เอ๋ย พ่อบัณฑิตผู้พหูสูตทรงไตรเพทของเรา หลังจากตายแล้วคนจะไปบังเกิดใน
อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็เพราะคนผู้ประพฤติประโยชน์เช่นนี้ เธอพูดกระทบ
ท่านพระโคดมอย่างนี้ ๆ แต่กลับถูกท่านพระโคดมยกเอาพวกเราเป็นตัวอย่าง
เปรียบเทียบอย่างนี้ ๆ โธ่เอ๋ย พ่อบัณฑิตผู้พหูสูตทรงไตรเพทของเรา หลังจากตาย
แล้วคนจะไปบังเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็เพราะคนผู้ประพฤติประโยชน์
เช่นนี้” โกรธเคือง ไม่พอใจ จึงเตะอัมพัฏฐมาณพจนล้มกลิ้ง ทั้งอยากเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคในเวลานั้นทีเดียว

พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

[292] พราหมณ์เหล่านั้นได้กล่าวกับพราหมณ์โปกขรสาติว่า “วันนี้เกินเวลา
ที่จะไปเข้าเฝ้าพระสมณโคดมเสียแล้ว รอพรุ่งนี้ค่อยไปเถิดท่านโปกขรสาติ”
ต่อมา พราหมณ์โปกขรสาติสั่งให้จัดเตรียมของขบฉันอันประณีตไว้ในนิเวศน์
ของตน แล้วขึ้นยานพาหนะเดินทางออกจากเมืองอุกกัฏฐะ เมื่อยังตามคบเพลิงอยู่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 9 หน้า :107 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

ขับยานพาหนะตรงไปยังราวป่าอิจฉานังคลวัน เมื่อเข้าไปจนสุดทางยานพาหนะจึง
ลงเดินเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ สนทนากับพระผู้มีพระภาคพอคุ้นเคย
แล้ว จึงนั่งลง ณ ที่สมควร
[293] พราหมณ์โปกขรสาตินั่งเรียบร้อยแล้วได้ทูลถามว่า “ท่านพระโคดม
อัมพัฏฐมาณพศิษย์ของข้าพเจ้าได้มาที่นี่หรือ”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “เขามาที่นี่ พราหมณ์”
เขาทูลถามว่า “พระองค์ได้สนทนากับเขาบ้างหรือไม่”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “เราได้สนทนากับเขา พราหมณ์”
เขาทูลถามว่า “พระองค์ได้สนทนากับเขาว่าอย่างไรบ้าง”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเล่าเรื่องเท่าที่พระองค์ทรงสนทนากับอัมพัฏฐมาณพให้
พราหมณ์โปกขรสาติทราบทุกประการ
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ พราหมณ์โปกขรสาติได้กราบทูลว่า “ท่าน
พระโคดม อัมพัฏฐมาณพเป็นคนโง่ โปรดยกโทษให้เขาเถิด”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ขอให้อัมพัฏฐมาณพจงมีความสุขเถิด พราหมณ์”
[294] ครั้งนั้น พราหมณ์โปกขรสาติได้สังเกตดูลักษณะมหาบุรุษ 32
ประการในพระวรกายของพระผู้มีพระภาค ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ
โดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ พระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝักกับพระชิวหาใหญ่
จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อสนิทใจ
[295] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า ‘พราหมณ์โปกขรสาตินี้
เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการของเราโดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ
คุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝักกับชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อสนิทใจ’ ทันใด
นั้น พระผู้มีพระภาคทรงบันดาลอิทธาภิสังขารให้เขามองเห็นพระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่
ในฝัก และทรงแลบพระชิวหาสอดเข้าช่องพระกรรณทั้ง 2 ข้างกลับไปมา สอดเข้า
ช่องพระนาสิกทั้ง 2 ข้างกลับไปมาแผ่ปิดจนมิดมณฑลพระนลาฏ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 9 หน้า :108 }